กระบวนการกู้คืนหลังจากการขลิบคาดว่าจะเร็วขึ้นและเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เสมอ
แต่ยิ่งไปกว่านั้น ปรากฎว่ามีอาหารหลายชนิดที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ที่สามารถช่วยเร่งกระบวนการบำบัดบาดแผลจากการขลิบได้ คุณแม่ทราบ มันคืออะไร?
อ่านเพิ่มเติม: รับทราบครับคุณแม่! นี่คือ 4 วิธีปฐมพยาบาลเมื่อลูกของคุณอาเจียน
อาหารอะไรบ้างที่ช่วยเร่งการขลิบได้?
คุณจำเป็นต้องรู้ว่าอาหารบางชนิด เช่น ผลไม้ ผัก และแหล่งโปรตีนสามารถช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและเร่งกระบวนการฟื้นฟูได้
นี่คือรายการอาหารที่สามารถช่วยเร่งการฟื้นตัวของบาดแผลที่ขลิบได้
1. ผัก
ผักมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพร่างกาย นอกจากนี้ ผักยังสามารถช่วยในกระบวนการสมานแผลได้อีกด้วย
ผักใบเขียว เช่น คะน้าหรือผักโขม อุดมไปด้วยสารอาหาร ซึ่งสามารถลดการอักเสบ ปรับปรุงการทำงานของภูมิคุ้มกัน และเร่งกระบวนการสมานแผล
ผักสีเขียวอุดมไปด้วยวิตามินซี แมงกานีส แมกนีเซียม โฟเลต และโปรวิตามินเอ ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นสำหรับการทำงานของภูมิคุ้มกันและสุขภาพร่างกาย คุณแม่ทราบดีว่าวิตามินซีมีความสำคัญต่อกระบวนการสมานแผลมาก
2. ไข่
หลังจากขั้นตอนการขลิบ ร่างกายต้องการโปรตีนที่เพียงพอในการเร่งการสมานแผล
ไข่ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งของโปรตีนที่ดูดซึมได้ง่ายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสารอาหารที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและเร่งกระบวนการสมานแผล
ไข่ทั้งฟองมีวิตามิน A และ B12 สังกะสีและธาตุเหล็กซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย
อ่านเพิ่มเติม: 7 ประโยชน์ของไข่แดงเพื่อสุขภาพ: เพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง
3. เบอร์รี่
ผลไม้นี้อุดมไปด้วยสารอาหารและสารประกอบจากพืชที่ช่วยเร่งกระบวนการฟื้นตัวของบาดแผล รวมถึงบาดแผลจากการขลิบ
นอกจากนี้ ผลเบอร์รี่ยังเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี โดยที่วิตามินซีมีบทบาทในกระบวนการสมานแผลและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกาย
อย่าลืมว่าผลเบอร์รี่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีจากพืชที่ให้สีสดใสแก่ผลไม้ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านไวรัส และภูมิคุ้มกัน
4. ถั่วและเมล็ดพืช
ถั่วและเมล็ดพืช เช่น อัลมอนด์ พีแคน วอลนัท และเมล็ดแฟลกซ์เป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายในระหว่างกระบวนการฟื้นฟู อาหารเหล่านี้ให้โปรตีนจากพืช ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ วิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยในกระบวนการบำบัด
ตัวอย่างเช่น ถั่วและเมล็ดพืชเป็นแหล่งที่ดีของสังกะสี วิตามินอี แมงกานีส และแมกนีเซียม
สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าวิตามินอีทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ นอกจากนี้ วิตามินอียังมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
ผลการศึกษาหลายชิ้นระบุว่าวิตามินอีในร่างกายในระดับที่ดีสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเซลล์ภูมิคุ้มกันได้ เช่น เซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติ (NK cells) ซึ่งช่วยต่อต้านการติดเชื้อและโรคต่างๆ
5. เนื้อสัตว์บางชนิด
อ้างจาก สายสุขภาพกรดอะมิโนบางชนิดซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีนมีบทบาทสำคัญในการรักษาบาดแผลและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
สัตว์ปีก เช่น ไก่ มีกลูตามีนและอาร์จินีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโน 2 ชนิดที่ช่วยในการฟื้นฟูและรักษา
กลูตามีนให้การปกป้องเซลล์เมื่อป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดียวกัน อาร์จินีนช่วยในการผลิตคอลลาเจนและมีบทบาทในกระบวนการสมานแผล
6. มันเทศ
นอกจากนี้ อาหารที่สามารถช่วยเร่งกระบวนการสมานแผลที่ขลิบได้ก็คือมันเทศ การรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเพื่อสุขภาพ เช่น มันเทศ เป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการฟื้นฟู
คาร์โบไฮเดรตไม่เพียงแต่ให้พลังงานที่จำเป็นต่อเซลล์ในกระบวนการบำบัดรักษา แต่ยังรวมถึงเอนไซม์ เช่น เฮกโซไคเนสและซิเตรตซินเทสที่ช่วยในกระบวนการสมานแผล
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ การขาดคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายได้รับเข้าไปอาจรบกวนกระบวนการสมานแผลและชะลอการฟื้นตัว
มันฝรั่งหวานเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพซึ่งมีวิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงวิตามินซี แคโรทีนอยด์ และแมงกานีส ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะทำให้กระบวนการฟื้นตัวเร็วขึ้น
นั่นเป็นข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับอาหารที่สามารถช่วยเร่งกระบวนการสมานแผลที่ขลิบได้
นอกจากการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการแล้ว คุณแม่ยังต้องเร่งกระบวนการฟื้นฟูให้ลูกน้อยของคุณพักผ่อนให้เพียงพอและให้ร่างกายมีน้ำเพียงพอ
ปรึกษาปัญหาสุขภาพและครอบครัวของคุณผ่านบริการ Good Doctor 24/7 พันธมิตรแพทย์ของเราพร้อมที่จะให้บริการโซลูชั่น มาเลย ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Good Doctor ที่นี่!