ใจสั่นหรือใจสั่นที่ไม่สามารถควบคุมได้จะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจอย่างแน่นอน คุณอาจรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงเกินไปที่บริเวณคอ คอ หรือหน้าอก คุณรู้หรือไม่ว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้นได้? คุณคิดว่าสาเหตุมาจากอะไร?
อ่านเพิ่มเติม: โรคพาร์กินสัน: รู้จักอาการและการป้องกัน
ทำความรู้จักกับ paptilation
คำว่า paptillation หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ palpitations เกิดขึ้นเมื่อคุณรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วหรือเต้นแรง
อาการใจสั่นบางกรณีไม่เป็นอันตรายและจะหายไปเองโดยไม่ต้องรักษา ในขณะที่คนอื่น ๆ การเต้นของหัวใจอย่างรวดเร็วอาจเป็นสัญญาณของอาการร้ายแรง คุณสามารถสัมผัสได้ที่หน้าอก ลำคอ หรือคอ
สาเหตุของใจสั่น
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ คุณอาจประสบภาวะดังกล่าวได้จากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้:
สาเหตุของอาการใจสั่นจากสภาวะทางจิตใจ
- รู้สึกเครียด
- ประหม่า
- ตื่นตระหนกหรือหวาดกลัว
- ช็อค
เงื่อนไขทางการแพทย์บางอย่าง
- โรคต่อมไทรอยด์
- โรคหัวใจ
- ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
- โรคโลหิตจาง
- ความดันโลหิตต่ำ
- ไข้
- การคายน้ำ
- นอนไม่หลับ
- กิจกรรมที่หนักหน่วงเกินไป
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงมีประจำเดือน
- การตั้งครรภ์
- ก่อนวัยหมดประจำเดือน
เนื้อหาของสารในร่างกาย
- คาเฟอีน
- นิโคติน
- แอลกอฮอล์
- ยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย
เสพยา
- ยาลดน้ำหนัก
- ยารักษาโรคหัวใจ
- ยารักษาโรคหอบหืด
- ยาแก้ไอและหวัด
- สมุนไพรและอาหารเสริมบางชนิด
ควรไปพบแพทย์เมื่อไร?
หากคุณมีอาการใจสั่นพร้อมกับหายใจถี่ เหงื่อออกมากเกินไป เวียนศีรษะ เจ็บหน้าอก และเป็นลม ให้ไปพบแพทย์ทันที
นอกจากนี้ให้นับชีพจร หากชีพจรเกิน 100 ใน 1 นาที คุณควรไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการเจ็บป่วยที่รุนแรงอีก
ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิด paptilation?
อาการใจสั่นหรือใจสั่นสามารถทำร้ายใครก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้สึกตื่นตระหนกหรือประหม่า อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงนี้จะสูงขึ้นในบุคคลต่อไปนี้:
- เครียดมาก
- กำลังตั้งครรภ์
- มีอาการวิตกกังวล
- ทุกข์ทรมานจากภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน
- มีปัญหาหัวใจอื่นๆ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจพิการ หัวใจวาย
- คุณเคยผ่าตัดหัวใจมาก่อนหรือไม่?
อ่าน: สุขภาพดีด้วยอาหารดีต่อใจ มาเลย!
เสี่ยงโรคแทรกซ้อน
ใจสั่นยังสามารถทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน ถึงกระนั้นโอกาสก็ยังน้อยและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่ ภาวะหัวใจล้มเหลว หัวใจหยุดเต้น และโรคหลอดเลือดสมอง
วิธีวินิจฉัยสาเหตุของอาการใจสั่น
อันที่จริงสาเหตุของความผิดปกติของหัวใจนี้อาจวินิจฉัยได้ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการใจสั่นไม่เกิดขึ้นเมื่อแพทย์ทำการตรวจหรือตรวจไม่พบ EKG (อุปกรณ์ที่สามารถตรวจสอบการทำงานของหัวใจได้)
เมื่อคุณปรึกษา แพทย์อาจทำการทดสอบหลายครั้งเพื่อหาสาเหตุของการเต้นของหัวใจผิดปกติ เริ่มตั้งแต่การตรวจร่างกาย การใช้ยา ระดับความเครียด รูปแบบการนอน ไปจนถึงประวัติประจำเดือนของผู้ป่วยผู้หญิง
หากแพทย์ของคุณแนะนำให้ทำการทดสอบเพิ่มเติม คุณอาจถูกขอให้ไปพบแพทย์โรคหัวใจและทำการทดสอบอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง:
- ตรวจปัสสาวะ
- การตรวจเลือด
- เอกซเรย์หน้าอก
- คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG)
- อัลตราซาวนด์หัวใจ
- การตรวจเลือดไปเลี้ยงหัวใจ (coronary angiography)
- ตรวจสอบการทำงานของหัวใจโดยใช้จอภาพ Holter เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
วิธีการรักษา
คุณจะได้รับการรักษาตามสาเหตุของการกระตุกที่เกิดขึ้น แต่บางครั้งแพทย์ก็มีปัญหาในการหาสาเหตุที่แท้จริงของโรคนี้
คุณสามารถปรึกษาการรักษาทางเลือกอื่น ๆ ได้หากสาเหตุของหัวใจเต้นเร็วที่คุณกำลังประสบมาจากยาที่คุณใช้อยู่
หากคุณรู้สึกว่ามีวิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ คุณสามารถเอาชนะมันได้ด้วยการไม่สูบบุหรี่ ดื่มคาเฟอีนหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อ่าน: โรคหัวใจ: รู้สาเหตุและวิธีป้องกัน
วิธีป้องกันอาการใจสั่น
เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดปกตินี้ นอกจากการใช้ยาแล้ว คุณยังสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้:
- ห้ามสูบบุหรี่
- จำกัดการบริโภคคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง
- หากเกิดความวิตกกังวล ให้ลองฝึกควบคุมการหายใจหรือใช้อโรมาเทอราพี
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ทำแบบฝึกหัดที่ฝึกการหายใจลึก ๆ เช่นโยคะ
- รักษาระดับความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล
- หากการรับประทานยารักษาโรคหัวใจเป็นสาเหตุ ให้ปรึกษาทางเลือกการรักษาอื่นๆ กับแพทย์
นั่นคือเหตุผลที่หัวใจรู้สึกเต้นแรง มาเริ่มกันเลย ดูแลสุขภาพร่างกายและหัวใจของคุณอยู่เสมอ!
ปรึกษาปัญหาสุขภาพและครอบครัวของคุณผ่านบริการ Good Doctor 24/7 พันธมิตรแพทย์ของเราพร้อมที่จะให้บริการโซลูชั่น มาเลย ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Good Doctor ที่นี่!